วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา



เรื่องย่อ
มาลินีได้รับจดหมายของคุณยายวัน ในขณะที่เธอได้อ่านจดหมายคุณยายวันได้ตายไปแล้ว คุณ ยายเขียนจดหมายฝากกับผู้ใหญ่ลี ถึงมาลินีหลานสาวคนเดียวของท่าน ให้ไปรับมรดกบ้านกับที่ไร่นาหลายร้อยไร่ คุณยายของเธอมีความประสงค์ให้มาลินีไปทำไร่นาแทนท่าน และห้ามเด็ดขาดไม่ให้หลานให้คนอื่นเช่าทำ หรือถ้าคิดจะขายก็ให้ขายกับผู้ใหญ่ลีคนเดียว ห้ามขายให้กับคนอื่น นำความแปลกใจให้กับมาลินียิ่งนัก ว่าผู้ใหญ่ลีคนนี้เป็นใคร ทำไมคุณยายจึงให้ความสำคัญกับเขามากนัก

มาลินีไม่สนิทกับคุณยายของเธอ แม่เธอเล่าให้ฟัง เมื่อครั้งสาว ๆ คุณยายอยู่ในรั้วในวัง และใกล้เจ้านายชั้นสูง แต่ความรักได้หักอกคุณยายครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งถึงคุณตาของเธอก็เช่นเดียวกัน คุณยายทนความเจ้าชูมากเมียไม่ได้ถึงหลบมาอยู่ท้องนาแห่งนี้ คุณแม่ของเธอก็มาเติบโตที่นั่น คุณยายได้สามีใหม่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ซื่อสัตย์ขยันขันแข็ง ช่วยปกครองดูแลการงานจนกระทั่งตายจากไปโดยไม่มีลูกด้วยกัน คุณยายก็เลยมีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของมาลินี คุณแม่ของมาไม่ชอบชีวิตท้องนาจึงมักไปอยู่กับบิดาของท่านที่กรุงเทพ ฯ เสมอ

จนกระทั่งพบคุณพ่อของเธอและเกิดขัดใจกับคุณยาย คุณแม่จึงเข้าไปอยู่ในกรุงเทพจนเธอเกิด นาน ๆ คุณแม่จึงจะไปเยี่ยมเยือนคุณยายสักครั้งหนึ่ง ทำให้มาลินีเหินห่างกับคุณยายราวกับไม่ใช่หลานของคุณยาย จดหมายของคุณยายทำให้มาลินีครุ่นคิดอย่างหนัก ทำไมคุณยายจึงบังคับเธอไม่ให้เช่าที่นาแก่ใครถ้าเธอไม่ทำเองจะต้องขายให้ ผู้ใหญ่ลีแต่เพียงผู้เดียว มาลินี รู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำนาได้ เพราะเธอไม่เคยอยู่บ้านนอกไม่เคยทำนาเลย และที่สำคัญเธอยังรักอาชีพเดินแบบของเธอ ยังต้องการสวมเสื้อนำสมัย เดินกรุยกรายท้าทายสายตาผู้คนอยู่

ประดิษฐ์ เป็นแฟนของมาลินี ถึงเขาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง มาลินีเห็นว่านั่นเป็นลักษณะของผู้นำ และมาลินีก็ทำตัวเป็นผู้ตามตลอดเวลา หากมาลินีจะแสดงความคิดเห็นอะไรออกมาบ้างประดิษฐ์ไม่เคยรับฟังเธอเลย ทำให้มาเคยน้อยใจบ่อย ๆ แต่เธอก็จะงอนง้อเขาทุกครั้งที่ต้องทะเลาะกัน มาลินีคิดเอาเรื่องคุณยายไปปรึกษาประดิษฐ์ แต่เขาไม่ยอมมาพบเธอ อ้างโน่นนี่ และในที่สุดมาก็รู้ว่าเขาไปมีหญิงคนใหม่ มาลินีเสียใจ และมันก็ทำให้เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไปอยู่บ้านคุณยายของเธอ

ผู้ใหญ่ลี (ลีนวัตร) เป็นผู้ที่คุณนายวันให้ความรักและความเอ็นดูเป็นอย่างมาก เมื่อเขายังเด็ก พ่อและแม่ของลีจะไม่ให้เขาเรียนต่อ เพราะเกรงว่าเมื่อได้เรียนมาก ๆ แล้วจะทิ้งไร่นาไม่ยอมกลับมาทำ แต่คุณนายวันเป็นคนที่มองการไกล ได้ขอร้องพ่อแม่ของผู้ใหญ่ให้เขาได้เรียนต่อ เพราะเขาเป็นเด็กที่เรียนดี ควรส่งให้เขาได้เรียนสูง ๆ แล้วกลับมาพัฒนาท้องถิ่น ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่ส่งเรียน คุณนายจะเป็นคนส่งเอง


ด้วย แรงสนับสนุนของคุณนายวันคอยช่วยเหลือจุนเจือทุกอย่าง ทำให้ลีนวัตร หรือผู้ใหญ่ลีได้เรียนต่อจนสำเร็จปริญญา เกษตรศาสตรบัณฑิต และเป็นที่รักของชาวบ้าน ได้รับความไว้วางใจเลือกเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านต่อจากพ่อของเขาคือผู้ใหญ่ลอ ผู้ใหญ่ลีเอาความรู้จากวิชาการสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาไร่นาและชาวนา ให้ความรู้เกษตรแผนใหม่กับชาวบ้าน ใครตกทุกข์ได้ยากผลผลิตไม่ดี หรือภัยโรคพืชต่าง ๆ ผู้ใหญ่จะคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่ลีรักและนับถือคุณนายวันมาก คอยดูแลเอาใจใส่ช่วยงานคุณนายวันผู้มีพระคุณกับเขาทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้คุณนายวันจึงรักและเอ็นดูให้ความไว้วางใจเขามาก คุณนายวันได้วางแผนไว้ทั้งหมดก่อนตายเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินบ้านไร่นาให้ กับมาลินีหลานสาวคนเดียว ในจดหมายห้ามให้ใครเช่าทำ หรือถ้ามาลินีไม่ต้องการทำ คิดจะขาย ก็ให้ขายกับผู้ใหญ่ลีคนเดียว คือท่านต้องการให้มาลินีมาอยู่ทำนาที่นี่ และได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ลี เพราะท่านต้องการให้ที่นาของท่านตกอยู่กับคนที่ท่านรักสองคนคือผู้ใหญ่ลีกับ มาลินี

มาลินีมาถึงบ้านคุณยาย ก็ทราบจากปี๊ดว่าตอนนี้ศพของคุณยายไปอยู่ที่วัด เพราะคุณยายตายมาได้สองอาทิตย์แล้ว ผู้ใหญ่ ลีเป็นคนจัดการเรื่องสวดอภิธรรมและเป็นธุระให้ทุก อย่างปื๊ดบอกผู้ใหญ่ลีรอมาลินีมาเก็บศพคุณนายวันและกำหนดวันเผา มาลินีนึกโกรธผู้ใหญ่ลี คุณยายตายมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ทำไมเธอจึงเพิ่งได้รับจดหมายของคุณยายเมื่อวานนี้เอง คิดว่าเขาคงทำเอาหน้าส่งจดหมายให้เธอล่าช้า ชาวบ้านจะได้ตำหนิเธอว่าเป็นหลานที่อกตัญญูไม่ยอมมาจัดการงานศพให้คุณยาย และดูคุณยายจะไว้เนื้อเชื่อใจผู้ใหญ่ลีคนนี้เสียเหลือเกิน…ปื๊ดพาคุณมาเดิน ชมทั่วบ้าน พาไปดูสัตว์เลี้ยงของคุณนายวัน พอสิ้นคุณนายลูกจ้างก็ลาออกกันหมดผู้ใหญ่ลีก็เป็นคนรับภาระดูแลให้ทุกอย่าง

ปี๊ด ได้รับมอบหมายจากพ่อผู้ใหญ่ให้คอยดูแลมาลินี ปื๊ดเป็นเด็กกำพร้าที่ผู้ใหญ่ลีเก็บมาเลี้ยงไว้ตอนที่เขาเรียนมหาลัย เป็นลูกแขกที่มาทิ้งไว้ ปื๊ดเรียกผู้ใหญ่ลีว่าพ่อ และเรียกป้าปุยแม่ของผู้ใหญ่ลีว่าแม่ เป็นคนทำให้มาลินีเข้าใจว่าผู้ใหญ่เป็นผัวของป้าปุยในตอนแรก และทำให้มาลินีเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีนั้นคงหน้าตาเป็นแขกและแก่แล้ว ปื๊ดช่วยมาลินีได้มาก คืออยากรู้อะไรก็ถามจากปื๊ด มาลินีหารู้ไม่ว่าปื๊ดเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่ลี คอยเก็บข้อมูลในตัวคุณมา มาบอกผู้ใหญ่ทุกเรื่อง มาลินีเริ่มชอบบ้านทุ่งของคุณยายของเธอเธอหลงใหลบรรยากาศในยามเย็นที่พระ อาทิตย์กำลังจะตก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าเป็นอย่างมาก เธอได้พบผู้ใหญ่ลีกำลังขับรถไถนาอยู่ เธอ เข้าไปทักทาย เพราะเข้าใจว่าผู้ใหญ่ลีคือนายเหว่า เพราะได้รับการบอกเล่าจากปื๊ด ว่านายเหว่าเป็นคนขับรถไถนาให้ผู้ใหญ่ลี ผู้ใหญ่ลีนึกสนุกเลยปล่อยเลยตามเลยให้คุณมาเข้าใจว่าตนคือนายเหว่า พร้อมสาธิตการขับรถไถนาให้เธอดูอีกด้วย …มาลินีประทับใจนายเหว่าที่รูปหล่อแถมยังเก่งมีความรู้เรื่องการทำนาอีกด้วย มาลินีมาดูผู้ใหญ่ลีในคราบของนายเหว่าไถนาอีกแต่เธอก็ยังไม่ทราบว่าเขาคือ ผู้ใหญ่ลี…

กระทั่งถึงวันที่ต้องบรรจุเก็บศพของคุณนายวันที่วัด ความลับจึงเปิดเผยว่านายเหว่าที่เธอพบนั้นคือผู้ใหญ่ลี มาลินีทั้งเจ็บใจทั้งอายที่ถูกหลอกป้าปุย แม่ของผู้ใหญ่ลี รักลูกชายมาก และเมื่อเจอมาลินีก็หลงใหลรักใคร่ยิ่งนักอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ สนับสนุนทำทุกอย่างที่จะให้ทั้งสองรักและได้ลงเอยกัน และยิ่งเป็นความประสงค์ของคุณนายวันผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของแกมาตลอดแก ยิ่งทำทุกวิถีทาง ผู้ใหญ่ลีต้องมาคอยดูแลช่วยเหลือเรื่องการงานทุกอย่างของมาลินี..ทุกเย็นเขา จะมาดูพระอาทิตย์ตกกับคุณมา และต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนมาลินีก็สลัดคราบนางแบบของเธอมาเรียนรู้วิธีการทำนาอย่างตั้งอกตั้งใจ ในเมื่อเธอตัดสินใจจะอยู่ที่นี่เธอก็ต้องทำให้เป็นทุกอย่าง เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านที่เธอไม่เคยได้รู้มาก่อน ผู้ใหญ่ลีนั้นปลื้มและนิยมในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง


เฉลา น้องสาวของผู้ใหญ่ลีนั้นก็รักอยู่กับนายเหว่า ลูกน้องคนสนิทของผู้ใหญ่ลี แต่เฉลานั้นกำลังเรียนอยู่ ผู้ใหญ่ลีจึงพูดจาตักเตือนว่าให้เรียนจบเสียก่อน จึงค่อยริรักกับนายเหว่า แต่ด้วยความที่ทั้งคู่รักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีกีดกันความรักของคนทั้งสอง เหว่ากับเฉลา จึงหนีหายออกไปจากบ้านด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ทั้งคู่หนีไปพักอยู่ที่บ้านของมาลินี มาลินีพยายามอธิบายให้ผู้ใหญ่ลีเข้าใจถึงความรักของหนุ่มสาว โดยให้นายเหว่าและเฉลากลับมากราบขอโทษผู้ใหญ่ลี ที่เข้าใจผิดและหนีหายไปด้วยกัน เฉลาสัญญากับผู้ใหญ่ลีว่าจะเรียนให้จบก่อน แล้วค่อยแต่งงานกับเหว่าอีกที ผู้ใหญ่ลีจึงให้อภัยน้องสาวกับนายเหว่า

ประดิษฐ์ซึ่งรู้ว่ามาลินีมาอยู่ที่นี่และ ได้มรดกของคุณยายมากมายได้ชวนวลัยและสมรเธอทั้งสองเป็นเพื่อนของมาลินี มาหามาลินีหวังจะขอคืนดี ประดิษฐ์หวังจะได้ทรัพย์สมบัติในส่วนของมาลินีอีกด้วย แต่มาลินีเริ่มเห็นธาตุแท้ของประดิษฐ์ที่เห็นแก่เงิน ไม่ได้ขยันทำมาหากินและช่วยเหลือสังคมเหมือนกับผู้ใหญ่ลี ทำให้มาลินีไม่ยอมคืนดีด้วย สร้างความแค้นใจให้ประดิษฐ์มากที่เสียเชิงให้กับหนุ่มบ้านนอกอย่างผู้ใหญ่ลี

ปทุม ลูกสาวของผู้ใหญ่โหมด ก็มาติดพันชอบผู้ใหญ่ลีเข้าอย่างเต็มหัวใจ เธอเป็นสาวบ้านนอกที่ชอบทำตัวไฮโซแบบเฉิ่มสุด ๆ พยายามหาทางสวยเด่นแข่งกับมาลินีสุดขั้ว แต่ยังไงซะผู้ใหญ่ลีก็ไม่เคยสนใจปทุม เพราะใจหัวใจมีแต่มาลินีคนเดียว ปทุมจึงร่วมมือกับประดิษฐ์ วางแผนแยกผู้ใหญ่ลีกับมาลินีให้ห่างออกจากกัน ประดิษฐ์หลอกให้มาลินีมาพบที่กระท่อมยามค่ำคืน พร้อม ๆ กับที่ปทุมเองก็แอบมาดักรอพบผู้ใหญ่ลีที่กองฟางเช่นเดียวกัน พอดีคืนนั้นฝนตกหนัก ไฟก็ดับ ผู้ใหญ่ลีเดินมาพบมาลินีเสียก่อน จึงไปหลบฝนที่บ้านมาลินี พร้อมบอกความในใจกับมาลินี อีกทั้งยังหมั้นหมายมาลินีด้วยแหวนอีกหนึ่งวง ผู้ใหญ่ลีสัญญาว่า หากบวชแล้วสึกออกมาเมื่อไหร่ จะแต่งงานกับมาลินีทันที
ทั้งประดิษฐ์และปทุมต่างรอมาลินีกับผู้ใหญ่ลี

แต่ ด้วยเหตุชุลมุนของฝนฟ้า ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าไปหลบฝนในกระท่อมอันมืดมิด ประดิษฐ์เข้าใจว่าปทุมเป็นมาลินีจึงปลุกปล้ำจนได้เป็นเจ้าของสมใจ พอตื่นเช้ามาจึงได้รู้ว่าตนเข้าใจผิดแต่ก็ได้ปทุมเป็นเมียเสียแล้ว สุดท้ายผู้ใหญ่ลีก็เข้าพิธีอุปสมบทสร้างความปลื้มใจให้กับแม่ปุยเป็นอย่าง มาก ระหว่างที่บวชนั้น ประดิษฐ์แค้นใจจัดที่ต้องพลาดหวังจากมาลินี จึงแก้เผ็ดผู้ใหญ่ลีด้วยการพาฉลวย น้องสาวของผู้ใหญ่ลีอีกคน เข้ากรุงเทพฯ ไปถ่ายหนังเรทอาร์ พอดีมาลินีรู้ข่าวเสียก่อน จึงไปตามไปช่วยฉลวยได้ทัน ผู้ใหญ่ลีเองก็มากับปื๊ด เพื่อมาช่วยฉลวยอีกแรง ทั้งที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ ครั้งนี้ผู้ใหญ่ลีซึ้งในน้ำใจของมาลินีมากขึ้นไปอีก พระผู้ใหญ่ลีให้ฉลวยกลับไปเรียนที่บ้านตัวเอง อย่ามาดิ้นรนเพื่อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ จนเป็นเหยื่อให้คนชั่วอย่างประดิษฐ์หลอกอีก ฉลวยสำนึกผิด ยอมกลับบ้านแต่โดยดี

ปทุมมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก โหมดเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีเป็นพ่อของเด็กในท้อง จึงตั้งใจจะศึกพระให้ได้ แต่เมื่อความจริงเปิดเผยมาว่า ประดิษฐ์คือลูกเขยตัวจริงก็อับอายขายขี้หน้าหนัก เพราะรู้ดีว่าประดิษฐ์นั้นชั่วช้าขนาดไหน ประดิษฐ์กลายเป็นลูกเขยของผู้ใหญ่โหมดอย่างจำยอม ซ้ำยังถูกปทุมใช้เยี่ยงทาส แต่เขาก็ต้องจำยอมเพราะรู้ดีว่า หากไม่ยอมรับปทุมเป็นเมีย ประดิษฐ์ต้องถูกโหมดเอาตายอย่างแน่นอน

ผู้ใหญ่ลีสึกออกมาในที่สุด เขาสบายใจมากที่เรื่องปทุม คลี่คลายไปด้วยดี ประดิษฐ์ก็รับกรรมที่ก่อไป ส่วนเฉลากับเหว่าก็ตั้งใจว่าเรียนจบเมื่อไหร่จะแต่งงานกันให้ได้ ส่วนฉลวยก็กลับมาเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัด ไม่ไปกรุงเทพฯอีกแล้ว ผู้ใหญ่ลีจึงขอมาลินีแต่งงานในที่สุด ความรักของทั้งสองกำลังเบิกบานในทุ่งนาของคุณนายวัน ที่มอบไว้เป็นสมบัติให้กับมาลินี ผู้ใหญ่ลีกับนางมาจึงได้ครองคู่กันในที่สุด

ขอขอบคุณ Teenee.com

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันแม่แห่งชาติ

ความเป็นมาของวันแม่
แอนนา เอ็ม.จาร์วิส คุณครูแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย ชาวอเมริกัน เธอเป็นผู้เรียกร้องให้มีวันแม่ในอเมริกา แต่กว่าเธอประสบผลสำเร็จก็ครอบ 2 ปี ในปี ค.ศ. 194 (พ.ศ.2457) โดยประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือดอกคาร์เนชั่น การใช้ดอกคาร์เนชั่นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้าน หรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว

ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติในประเทศไทย
งานวันแม่ในประเทศไทยได้จัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีวันแม่ขึ้นมาอีกแต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และยังมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดวันแม่ไปอีกหลายครั้ง ต่อมารัฐบาลได้กำหนดให้วันแม่เป็นที่ 15 เมษายน โดยได้เริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลง เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไปทำให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่ก็จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนมาในปี พ.ศ. 2519
คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยได้ถือเอาวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ดอกมะลิ
ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย ดังนั้นจึงได้กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้ประจำวันแม่แห่งชาติ

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Transformers 2

Transformers 2

ชื่อไทย : อภิมหาสงครามแค้น
ผู้กํากับ : ไมเคิล เบย์
นักแสดง : ไชอา ลาบั๊ฟ,เมแกน ฟ็อกซ์
ประเภท : Action, Sci-Fi

สองปีผ่านไปที่ แซม วิทวิคกี้ ได้ช่วยจักรวาลจากศึกขั้นเด็ดขาดระหว่างหุ่นยนต์จากต่างดาวที่กำลังสู้รบกันอยู่ แม้จะได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญมาแล้ว แต่แซมก็เป็นเพียงวัยรุ่นธรรมดาที่มีปัญหาเหมือนกับคนทั่ว ๆ ไปเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย แถมยังต้องทิ้ง มิเกล่า แฟนสาวของเขาเอาไว้ที่บ้านเกิด และต้องแยกห่างจากพ่อแม่ของเขาเป็นครั้งแรก แซมพยายามทำดีที่สุดเพื่อทิ้งปัญหาต่างๆ เอาไว้ที่มิสชั่นซิตี้ และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ แต่เขาไม่ได้รู้เลยว่าสงครามระหว่างพวกออโต้บ็อทส์ กับดีเซ็ปติคอนส์ กำลังดำเนินไปอย่างลับๆ ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย เซ็คเตอร์ 7 ถูกยุบไป และ เจ้าหน้าที่ซิมม่อนส์ นายทหารผู้ภักดีกับเซ็คเตอร์ 7 ถูกไล่ออก และที่ถูกตั้งขึ้นมาแทนที่ก็คือเนสท์ (NEST) องค์กรใหม่ ซึ่งเลือกใช้งานนายทหารผู้มีประสบการณ์ภาคสนามอย่าง เลนน็อกซ์ และ เอ็ปป์ส พยายามหาวิธีทำงานเคียงข้างไปกับกลุ่มออโตบ็อทส์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกดีเซ็ปติคอนส์ โชคร้ายที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ธีโอดอร์ กัลโลเวย์ เหมือนจะเล็งเห็นถึงอันตราย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยึดครองอำนาจควบคุมขององค์กรทุกหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม รวมไปถึงอำนาจของแต่ละองค์กรเหล่านั้น ขณะเดียวกันก็จะได้กำจัดหน่วยงานรัฐบาลที่เขาเห็นว่าไม่มีความสำคัญทิ้งไป กัลโลเวย์จึงพยายามปิดเนสท์ทิ้ง เพราะเขาเชื่อว่าภัยคุกคามจากสงครามที่สร้างความวอดวายของกลุ่มหุ่นยนต์ต่างดาวสองกลุ่มนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
เขาเชื่อว่ามนุษย์ไม่สนใจในความขัดแย้งที่ออโต้บ็อทส์กับพวกดีเซ็ปติคอนส์ เมื่อ ชีวิตของแซมในที่เรียนใหม่เริ่มเข้าที่เข้าทาง โดยเขาสามารถปรับตัวเข้ากับ ลีโอ เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่เป็นจอมจุ้นจ้าน และ อลิซ เพื่อนสาวคนใหม่ แซมได้เกิดความว้าวุ่นขึ้นอีกจนได้เมื่อเขาเห็นภาพที่แว่บขึ้นมาในหัวของเขา ราวกับสายฟ้าแลบ ด้วยความหวาดกลัวว่าเขาอาจกำลังวิกลจริตเหมือนปู่ของเขา แซมจึงเก็บภาพที่เขาเห็นในหัวเอาไว้เป็นความลับ จนกระทั่งเขาไม่อาจทนเมินเฉยต่อข้อความและสัญลักษณ์ที่แทรกซึมเข้าไปในความคิดของเขาได้ แซมต้องไปติดอยู่กลางศึกระหว่างออโต้บ็อทส์และดีเซ็ปติคอนส์อีกครั้งและมีชะตากรรมของจักรวาลเป็นเดิมพันอีกเช่นเคย แต่ที่แซมยังไม่รู้ก็คือเขาคือผู้กุมกุญแจที่จะไขไปสู่ผลลัพธ์ของการทำศึก ระหว่างความชั่วและพลังแห่งความดี ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ รวมไปถึงเพื่อนที่เนสท์ และแม้กระทั่งพ่อกับแม่ของเขาเอง ในที่สุด แซมก็ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความเป็นวิทวิคกี้ที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด